วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บทสรุป การออกสตาร์ตด้านการเงินก่อนคนอื่น

ในปี 1990 ไมค์เพื่อนสนิทของผมขึ้นครองอาณาจักรของพ่อเขา และตามข้อเท็จจริงแล้ว เขาทำงานได้ดีกว่าที่พ่อเขาเคยทำมาด้วยซ้ำ ขณะนี้เขากำลังประแป้งแต่งตัวลูกชายของเขาเองให้พร้อมที่จะเข้ามานั่งบังลังก์แทนเขา ก็เป็นวิธีเดียวกับที่พ่อของเขาประแป้งแต่งตัวให้เรา เนื่องจากเขามีความมานะในการทำงานเพื่อ เรียนรู้ (มิใช่เพื่อรับ) ตั้งแต่อายุเก้าขวบ ไมค์จึงมีเชาว์ปัญญาทางการเงินที่แหลมคม เขาเป็นคนประเภทสร้างโชคให้ตัวเองและสร้างเงินทองของตัวเอง ชีวิตให้อะไรเขามากเขาก็รับและปรับปรุงให้ดีขึ้น

ผมเกษียณอายุตัวเองในปี 1994 ตอนที่ผมอายุ 47 ปี ส่วนคิม ภรรยาผมอายุ 37 ปีในตอนนั้น เกษียณอายุแปลว่าสิ้นกำหนดเวลาทำงาน แต่มิได้หมายความว่าไม่ทำงาน เราจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แล้วแต่เราจะเลือก ส่วนความมั่งคั่งของเราเจริญเติบโตโดยอัตโนมัติ สินทรัพย์ของเรางอกเงยขึ้นด้วยตัวมันเอง เรารดน้ำพรวนดินและดูแลเอาใจใส่มันมาหลายปีจนกระทั่งมันไม่ต้องพึ่งพาเราอีกต่อไปแล้ว รากของมันหยั่งลึกมากพอ มาบัดนี้ต้นไม้ต้นนั้นกำลังให้ร่มเงาที่อภิรมย์แก่เรา

ตอนเป็นเด็ก ผมมักไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่พ่อรวยพูดกับผมอยู่เป็นนิจ ก็คล้ายกับครูที่ดีส่วนใหญ่ คำพูดของท่านยังคงสอนผมต่อเนื่องมาหลายปี คำพูดและบทเรียนของท่านยังตรึงแน่นอยู่กับผมมาจนทุกวันนี้

เลือกให้ดี !

ผมมีคำแนะนำสุดท้ายมาฝากอีกนิดเดียวเท่านั้น : เลือกเพื่อนและพี่เลี้ยงของคุณให้ดี พิจารณาให้รอบคอบตั้งแต่การเลือกคนที่คุณจะขอคำแนะนำจากเขา ถ้าคุณอยากจะไปให้ถึงจุดใด ก็ให้เลือกคนที่เคยไปถึงจุดนั้นมาเรียบร้อยแล้ว

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณตัดสินใจที่จะไปปีนยอดเขาเอฟเวอร์เรสต์ในปีหน้า ชัดเจนแล้วว่าคุณจะไปขอคำแนะนำจากคนที่ปีนถึงยอดเขาแห่งนี้มาก่อน แต่พอเป็นเรื่องปีนยอดเขาทางการเงิน คนส่วนใหญ่กลับไปขอคำแนะนำจากคนที่ยังจมปลักอยู่ในแอ่งโคลนทางการเงิน

พ่อรวยสนับสนุนให้ผมมีโค้ชหรือพี่เลี้ยงอยู่เสมอ ท่านพูดอยู่เป็นนิจว่า "มืออาชีพต้องมีโค้ช มือสมัครเล่นไม่จำเป็น"

ยกตัวอย่างเช่น ผมเล่นกอล์ฟและเรียนกับโปร แต่ผมไม่มีโค้ชดูแลเต็มเวลานี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมจ่ายเงินเพื่อเล่นกอล์ฟแทนที่จะได้เงินจากการเล่นกระนั้นก็ตาม ยามที่เป็นเกมของธุรกิจและการลงทุน ผมมีโค้ชหลายคนด้วย ทำไมผมจึงมีโค้ช ? ผมมีโค้ชก็เพราะผมได้รับเงินจาการเล่นเกมพวกนี้

เพราะฉะนั้น เลือกพี่เลี้ยงหรือที่ปรึกษาให้ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่คุณเลือกได้ อีกเรื่องที่สำคัญมากที่คุณทำได้คือ เลือกคบแต่เพื่อนดี ๆ

คนที่คุณใช้เวลาอยู่กับเขามากที่สุดคือ อนาคตของคุณ

หยิบสมุดโน็ตพ่อรวยออกมา แล้วจดรายการชื่อคน 6 คนที่คุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพวกเขามากกว่าคนอื่น ๆ จำไว้ว่าคนที่เข้าข่ายคือคนที่คุณใช้เวลาอยู่กับเขามากที่สุด มิใช่ลักษณะของความสัมพันธ์ (อย่าเพิ่งอ่านต่อจนกว่าคุณจะเขียนชื่อทั้ง 6 ชื่อครบแล้ว)

ประมาณสิบห้าปีมาแล้วที่ผมเข้าสัมมนารายการหนึ่งซึ่งผู้บรรยายขอให้พวกเราทำแบบเดียวกันนี้ ผมเขียนชื่อลงไป 6 ชื่อ เขาขอให้เราพิจารณาชื่อที่เราเขียนเสร็จแล้ว จากนั้นเขาประกาศว่า "คุณกำลังมองไปที่อนาคตของคุณ คน 6 คนที่คุณใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดคืออนาคตของคุณ"

คน 6 คนที่คุณใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนที่คบหากันอยู่เสมอไป บางคนอาจจะเป็นครู ครอบครัว หรือโค้ชฟุตบอล บัญชีรายชื่อของผมเริ่มแสดงให้เห็นอะไรดีพอสมควรเมื่อผมเริ่มพิจารณาลึกลงไปจากที่ดูเพียงผิวเผิน ผมเริ่มเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้มากขึ้น มีทั้งที่ชอบและไม่ชอบ

ผู้บรรยายให้เราเดินไปรอบห้องเพื่อคุยเรื่องบัญชีชื่อของเรากับคนอื่น ยิ่งผมถกเรื่องรายชื่อกับคนอื่นมากขึ้น ผมยิ่งได้ฟังคนอื่นมากขึ้นและนั่นเองที่ทำให้ผมตระหนักว่าผมจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างบ้างแล้ว

อันที่จริงแบบฝึกหัดนี้แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยเลย แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าคุณกำลังจะไปไหนและคุณกำลังทำอะไรกับชีวิตของคุณ

สิบห้าปีหลังจากผมทำแบบฝึกหัดนั้นแล้ว รายชื่อคนที่ผมใช้เวลาอยู่ด้วยมากได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ยกเว้นเพียงคนเดียว 5 คนในบัญชีแรกนั้นยังเป็นเพื่อนรักกันอยู่ แต่เราแทบไม่ได้เจอกันเลย พวกเขาเป็นคนดีและมีความสุขกับชีวิตของเขา การเปลี่ยนแปลงของผมเป็นเรื่องของผมคนเดียวเท่านั้น ผมต้องการเปลี่ยนอนาคต การจะเปลี่ยนอนาคตให้สำเร็จด้วย ขอให้เลือกใช้เวลาอยู่กับคนที่เข้าใจและชื่นชมวิสัยทัศน์และเป้าหมายของคุณ ถ้าจะให้ดีกว่านั้น เลือกคนที่จะร่วมแบ่งปันทั้งสองอย่างที่กล่าวมาด้วย !

ผมได้อะไรจากพ่อทั้งสองคน

พ่อทั้งสองคนของผมเป็นคนใจดีมีเมตตา ทั้งสองต่างยึดหลักปฏิบัติของการเป็นผู้ให้คนอื่นก่อน การสอนก็เป็นการให้อย่างหนึ่งของท่าน ยิ่งท่านให้มาก ท่านยิ่งได้รับคืนมากขึ้น มองอีกมุมหนึ่ง พอโตขึ้นผมกลายเป็นพ่อทั้งสองคนในร่างเดียว ส่วนหนึ่งของตัวผมคือ นายทุนผู้รักเกมการเงินและปั้มเงิน ส่วนอีกด้านหนึ่งของผมคือ ครูผู้รับผิดชอบทางสังคมที่มีความห่วงใยอยู่ลึก ๆ ในเรื่องช่วงว่างระหว่างการมีกับไม่มีนับวันจะขยายกว้างมากขึ้น

ฐานรากที่แข็งแกร่ง

ไมค์กับผมได้รับการลงฐานรากที่แข็งแกร่งในแง่ความรู้ เราเรียนรู้มาว่าสินทรัพย์ที่มั่นคงที่สุดของเราคือมันสมอง ถ้าสมองของเราได้รับการฝึกให้มองเห็นโอกาสก็จะสร้างความมั่งคั่งได้ในเวลาอันสั้น ไมค์และผมได้เรียนรู้บทเรียนนี้ตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก แม้ตอนนี้เราจะเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว แต่เราก็ยังสร้างสิ่งต่าง ๆ บนฐานรากที่แข็งแกร่งของเราต่อไป สิ่งที่พ่อรวยสอนผมยังคงประยุกต์ใช้ได้ นี่คือสิ่งที่ผมหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณมีฐานรากที่แข็งแกร่งเช่นกัน ผมปรารถนาจะขอเป็นครูที่ดีของคุณเหมือนดั่งที่พ่อรวยเป็นครูที่ดีของผม

หวังว่าเมื่อคุณมีความเข้าใจทางการเงินดีขึ้น คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณอยากจะทำในชีวิตของคุณได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรู้วิธีบริหารค่ายเพลง เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้พิทักษ์ป่า หรือสร้างธุรกิจ ถ้ามีความรอบรู้ในการดูแลตัวเองด้านการเงินแล้ว คุณจะมีกำลังดูแลคนอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินเพื่อการกุศลหรือเกื้อกูลสิ่งที่เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวต้องการได้โดยที่พวกเขาไม่เดือดร้อน สิ่งนี้แหละจะทำให้คุณมีชีวิตที่เพียบพร้อมในทุก ๆ ด้าน

ขอบคุณที่อ่านหนังสือเล่มนี้

โรเบิร์ต คิโยซากิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น